Trends and Paths on Buddhist Research

แนวโน้มและแนวทางการวิจัยด้านพระพุทธศาสนาในสังคมไทยยุค 4.0: ศึกษาเฉพาะกรณีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (Trends and Paths on Buddhist Research in Thai Society 4.0: A Case Study of Mahamakut Buddhist University)

แดชบอร์ดวิเคราะห์งานวิจัยพุทธศาสนา ยุค 4.0

ทิศทางงานวิจัยพุทธศาสนาในยุค 4.0

วิเคราะห์ภูมิทัศน์งานวิจัย กรณีศึกษา ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย (พ.ศ. 2542-2559)

85

โครงการวิจัยทั้งหมด

76.5%

เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ

84.7%

นักวิจัยสายวิชาการ

70.6%

ทำวิจัยคนเดียว

สัดส่วนรูปแบบการวิจัย

งานวิจัยส่วนใหญ่ท่วมท้นเป็นเชิงปริมาณ (แบบสำรวจ) ขณะที่งานวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยสงฆ์ยังมีน้อยมาก ชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการพัฒนาความเข้มแข็งด้านการวิจัยเชิงลึก

5 อันดับหลักธรรมที่ถูกนำมาวิจัยมากที่สุด

มีการใช้หลักธรรมบางหัวข้อซ้ำๆ กันในหลายงานวิจัย ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่ชัดเจนในการใช้ประโยชน์จากหลักธรรม และยังขาดความหลากหลายในการนำหลักธรรมอื่นๆ มาประยุกต์ใช้

ภาพรวมข้อมูลนักวิจัย

ข้อมูลชี้ว่านักวิจัยส่วนใหญ่เป็นบุคลากรสายวิชาการและมาจากส่วนกลางเป็นหลัก ซึ่งเป็นโอกาสในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพนักวิจัยจากสายสนับสนุนและจากวิทยาเขตต่างๆ ให้มากขึ้น

สัดส่วนนักวิจัยตามสังกัด

สัดส่วนนักวิจัยตามสายงาน

ข้อเสนอแนะเพื่อยกระดับงานวิจัยในยุค 4.0

🎯 กำหนดทิศทางชัดเจน

สร้างยุทธศาสตร์การวิจัยของสถาบัน เพื่อให้งานวิจัยมีเป้าหมายและตอบโจทย์สังคม ไม่ใช่ทำตามความสนใจส่วนบุคคล

💡 เน้นคุณภาพเชิงลึก

ส่งเสริมงานวิจัยเชิงคุณภาพ (วิเคราะห์คัมภีร์) ให้มากขึ้น เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และนักวิชาการที่เข้มแข็ง

🌍 ขยายความหลากหลาย

สนับสนุนการวิจัยในหลักธรรมที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างความเชี่ยวชาญและหลีกเลี่ยงการใช้หลักธรรมซ้ำๆ

🤝 ทำงานเป็นทีม

ส่งเสริมการทำวิจัยเป็นคณะแบบบูรณาการหลายศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและสร้างงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ

วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลจากรายงาน: “แนวโน้มและแนวทางการวิจัยด้านพระพุทธศาสนาในสังคมไทยยุค 4.0” มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

หมายเหตุ. เป็นบทความวิชาการที่นำเสนอใน วารสารพุทธมัคค์ ศูนย์วิจัยธรรมศึกษา สานักเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2560)