โครงการการประชุมวิชาการ (ออนไลน์/ออนไซต์) ประจำปี 2568 ระดับชาติ ครั้งที่ 6 และนานาชาติ ครั้งที่ 4 “สุขภาพจิตของพระสงฆ์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน : ปัญหา ความท้าทาย และแนวทางรับมือ” ดำเนินการหลักโดย ศูนย์วิจัยธรรมศึกษาและประชาคมวารสารทางพุทธปัญญาและสหวิทยาการ พร้อมหน่วยงานภาคีเครือข่ายในประเทศและต่างประเทศ ณ ศูนย์วิจัยธรรมศึกษา สำนักเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม บางพลัด กรุงเทพมหานคร วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป
หลักการและเหตุผล
โครงการการประชุมวิชาการ (ออนไลน์/ออนไซต์) ประจำปี 2568 ระดับชาติ ครั้งที่ 6 และนานาชาติ ครั้งที่ 4 “สุขภาพจิตของพระสงฆ์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน : ปัญหา ความท้าทาย และแนวทางรับมือ” ดำเนินการหลักโดย ศูนย์วิจัยธรรมศึกษาและประชาคมวารสารทางพุทธปัญญาและสหวิทยาการ พร้อมหน่วยงานภาคีเครือข่ายในประเทศและต่างประเทศนี้ มีความจำเป็นต่อสถานการณ์การแลกเปลี่ยนการเรียนรู้และความสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาในระหว่างประเทศที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจและความผูกพันทางวัฒนธรรมและระหว่างสถาบันการศึกษาเพื่อแลกเปลี่ยนกิจกรรมความร่วมมือระหว่างบุคลากร นอกจากนี้ การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทางการศึกษาในต่างประเทศ มุ่งหวังให้เกิดการตระหนักรู้สถานการณ์พุทธศาสนาโลกทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบด้านสุขภาวะ ซึ่งผลกระทบด้านสุขภาวะอาจนำไปสู่ภัยคุกคามต่อมนุษย์ สังคม และพุทธศาสนาในหลากหลายมิติ
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า สุขภาวะและพุทธศาสนามีความสัมพันธ์กันโดยช่วยทำให้ร่างกายและจิตใจมีความสมดุลและแข็งแรง ในขณะที่พุทธศาสนาช่วยให้ผู้ปฏิบัติมีจิตใจที่สงบสุขและเข้าใจถึงธรรมชาติของชีวิต การผสมผสานทั้งสองแนวคิดนี้สามารถนำไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์และมีความหมายมากขึ้น จึงอาศัยเหตุผลที่สุขภาวะแบบองค์รวมที่มีความเป็นไปได้ด้วยศาสตร์ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ กล่าวคือพุทธศาสนากับศาสตร์อื่น ๆ ควรมีทิศทางแห่ง (1) การพัฒนาต้องสามารถนำไปปฏิบัติที่ได้ผล (2) ทฤษฎีการพัฒนาและวิธีปฏิบัติต้องยึดหลักพุทธศาสนาในฐานะท่ี่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ เทคโนโลยี จิตวิทยา สังคมวิทยาหรือนิเวศวิทยาสิ่งแวดล้อม (3) การพัฒนามีพื้นฐานของแนวคิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชนและความเข้มแข็งมั่นคงของประเทศชาติ (4) การพัฒนาเป็นกระบวนการไปสู่ความทันสมัยและเป็นวิถีทางไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาคนให้เกิดความอยู่ดีมีสุขไม่ว่าการพัฒนานั้นจะนำไปสู่การพัฒนา การศึกษา สาธารณสุข และความมั่นคงของมนุษย์
จากที่กล่าวมาทั้งหมด การนำเสนอผลงานทางวิชาการของนักวิชาการและผู้เข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการระดับชาติและนานาชาติ ในการประชุมเรื่อง “สุขภาพจิตของพระสงฆ์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน : ปัญหา ความท้าทาย และแนวทางรับมือ” เป็นการนำเสนอบทความทางวิชาการ งานวิจัย เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ในการนำไปสู่ข้อเสนอแนะและการกำหนดนโยบายที่สามารถลดสถานการณ์ที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อพุทธศาสนาและการพัฒนาด้านสุขภาวะอันนำไปสู่การเสริมสร้างความมั่นคงของพุทธศาสนา สังคม และโลก
วัตถุประสงค์โครงการ
1) เพื่อส่งเสริมให้นักวิจัย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์การระหว่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนความคิดและสร้างความเข้าใจร่วมกันในประเด็นเครือข่ายความรู้และพุทธศาสนาและการพัฒนาด้านสุขภาวะแบบองค์รวม โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต
2) เพื่อร่วมแสวงหาประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาที่เผชิญในช่วงสหัสวรรษใหม่และการสร้างเครือข่ายความรู้
3) เพื่อเสนอรูปแบบและยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในประเด็นที่ก่อให้เกิดความวิตก ซึ่งมีผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายและการนำนโยบายลงสู่การปฏิบัติต่อพุทธศาสนา
4) เพื่อเสนอประเด็นเนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตของพระสงฆ์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน: ปัญหา ความท้าทาย และแนวทางรับมือ
5) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายชาวพุทธระหว่างประเทศในกลุ่มพระสงฆ์ นักวิชาการ นักการศึกษา นักการเรียน ผู้นำด้านการพัฒนาในการนำยุทธศาสตร์ไปไปใช้ในระดับชุมชนท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศ
6) เพื่อร่วมเรียนรู้และปรับบทบาทการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศในการอยู่ร่วมกันอย่างผสมกลมกลืนระหว่างกลุ่มพุทธศาสนาประเทศต่างๆ
ประเด็นผลงานวิชาการที่นำเสนอในโครงการ
หัวข้อหลัก: สุขภาพจิตของพระสงฆ์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน : ปัญหา ความท้าทาย และแนวทางรับมือ
หัวข้อย่อย:
- มนุษยศาสตร์
- ภาษาบาลี
- พุทธศาสนา
- ปรัชญา
- ศึกษาศาสตร์
- บริหารการศึกษา
- สุขภาวะ
- เทคโนโลยีสารสนเทศ
- สังคมศาสตร์
- วัฒนธรรม
- รัฐศาสตร์
- การบริหารกิจการคณะสงฆ์
หัวข้อรอง: การพัฒนาวารสารวิชาการให้ได้มาตรฐานสากล
- เทคนิคการพัฒนาผลงานวิชาการให้มีคุณภาพ
- ปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาผลงานวิชาการ
ผู้เข้าร่วมโครงการ
ผู้เข้าร่วมโครงการจากกลุ่มประเทศภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศอนุภูมูภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา เมียนมาร์ และจีน และรวมกับกลุ่มประเทศที่สนใจ ได้แก่ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และประชาคมอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย อินเดีย สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย และแคนาดา ผู้เข้าร่วมประชุมเหล่านี้เป็นผู้มีประสบการณ์ด้านการวิจัย และด้านการปฏิบัติงานในระดับชุมชน นักการศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาและระดับนโยบาย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองท้องถิ่น องค์การระหว่างประเทศที่มีนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม สิทธิมนุษยชน แรงงานและสวัสดิการสังคม การศึกษา สาธารณสุข สตรี เด็ก และการพัฒนาเยาวชน รวมทั้งกลุ่มประชาสังคมที่มีส่วนร่วมทำงานด้านการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น การอนุรักษ์วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรรมชาติ บริเวณลุ่มแม่น้ำโขง กลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกและประชาคมอาเซียน
ระยะเวลาในโครงการ
– ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
– ประกาศหัวข้อผลงาน วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
– นำเสนอผลงาน วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป
สถานที่จัดโครงการ
ออนไซต์ ณ ศูนย์วิจัยธรรมศึกษา สำนักเรียนวัดอาวุธวิกสิตาราม กรุงเทพมหานคร และออนไลน์
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
1. ส่งเสริมให้พระสงฆ์ นักวิจัย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ปฏิบัติภาคสนาม องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์การระหว่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนความคิดและเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันในประเด็นเกี่ยวสุขภาพจิต
2. กลุ่มประเทศประชาคมอาเซียน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงร่วมกันแสวงหาประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาด้านสุขภาวะบุคลากรทางศาสนาที่เผชิญในช่วงสหัสวรรษใหม่
3. ทำให้เกิดการเสนอรูปแบบและยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพจิตของพระสงฆ์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน
4. ทำให้เกิดการเสริมสร้างเครือข่ายระหว่างประเทศในกลุ่มพระสงฆ์ นักวิจัย นักวิชาการ นักการศึกษา นักการเมือง และผู้นำด้านการพัฒนาสุขภาพจิต
บทความฉบับสมบูรณ์ (Full Paper)
ผู้นำเสนอผลงานส่ง File บทความเป็น MS Word ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เท่านั้น ด้วยตัวอักษร Time New Roman 12 point (ภาษาอังกฤษ) TH SarabunPSK 16 point (ภาษาไทย) กั้นหน้า 3 เซนติเมตร กั้นหลัง 2.5 เซนติเมตร ด้านบน 2.5 เซนติเมตร และด้านล่าง 2.5 เซนติเมตร ไม่เกิน 12 หน้า กระดาษ A4
ส่งบทความฉบับสมบูรณ์ (Full Paper) ได้ที่
E-mail: dhammsuksaresearchcenter@gmail.com
โทร. 086-086-4258
