กรรมบถ ชั้นเอก

กรรมบถ ชั้นเอก

บทที่ 4 มโนกรรม 3 🧠

คำอธิบาย:
  • มโนกรรม คือ กรรมที่เกิดจากการกระทำทางใจ (ความคิด)
  • มโนทวาร คือ ประตูใจ
  • มโนทุจริต คือ ความคิดที่เป็นบาป มี 3 อย่าง ได้แก่ อภิชฌา พยาบาท และมิจฉาทิฏฐิ
  • มโนสุจริต คือ ความคิดที่เป็นความดี มี 3 อย่าง ได้แก่ อนภิชฌา อพยาบาท และสัมมาทิฏฐิ
เนื้อหา:

ความคิดของคนเรามีมากมาย แต่ในกรรมบถนี้ จัดตามรากเหง้าของความดีความชั่ว ได้แก่

  • อกุศลมูล (รากเหง้าของความชั่ว) มี 3 อย่าง คือ โลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) และโมหะ (ความหลง)
  • กุศลมูล (รากเหง้าของความดี) มี 3 อย่าง คือ อโลภะ (ความไม่โลภ) อโทสะ (ความไม่โกรธ) และอโมหะ (ความไม่หลง)

ความหมาย:
  • หมายถึง ความอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นโดยทางทุจริต
  • เป็นอาการทางจิตที่ต่อเนื่องจากโลภะ แต่รุนแรงกว่า
ลักษณะ:
  • มีความอยากได้รุนแรง และจะเอาให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
  • เมื่อเกิดอภิชฌา จิตใจจะเพ่งเล็งไปที่สิ่งนั้นอย่างจดจ่อ
ตัวอย่าง:

นายพรานที่เห็นนกแล้วตั้งใจจะยิงให้ได้

ความสำคัญ:
  • อภิชฌาทำความเสียหายแก่จิตใจของผู้คิด
  • แม้จะยังไม่ได้ลงมือทำ ก็ถือว่าเป็นกรรมแล้ว
องค์ประกอบ:
  1. ของนั้นเป็นของคนอื่น
  2. มีจิตคิดอยากได้มาเป็นของตน
วิธีพิจารณาโทษ:
  1. ของที่อยากได้มีค่ามากหรือน้อย
  2. คุณความดีของเจ้าของ
  3. กิเลสของผู้คิด
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ
  • เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ จะยากจน หรือทรัพย์สินไม่ยั่งยืน
อภิชฌาเป็นตัวการให้ทำบาป:
  • อภิชฌาสามารถผลักดันให้คนทำอกุศลกรรมบถได้ถึง 6 อย่าง
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • ทำให้เป็นคนไม่โลภ มีความพอดี
  • ทำให้จิตใจสงบ ไม่ถูกความอยากครอบงำ
  • ส่งเสริมความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

สรุป: อภิชฌาเป็นความคิดที่นำไปสู่ความเห็นแก่ตัว และการทำบาป ควรละเว้น

ความหมาย:
  • หมายถึง ความอาฆาต ผูกใจเจ็บ คิดจะแก้แค้น
  • เป็นอาการทางจิตต่อเนื่องจากโทสะ (ความโกรธ)
ลักษณะ:
  • เมื่อถูกขัดใจ จะคิดหาทางทำร้าย หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย
  • ผูกใจเจ็บไว้ว่าจะแก้แค้นในภายหลัง
ตัวอย่าง:
  • นักเรียนที่ถูกแกล้ง แล้วผูกใจเจ็บว่าจะเอาคืน
ความสำคัญ:
  • พยาบาทเป็นการผูกตัวเองไว้กับความเสียหาย
  • ทำลายความสุข และคุณธรรมในจิตใจ
  • ปิดกั้นความดีที่จะเข้ามาสู่ตัวเรา
  • ทำให้จิตใจเศร้าหมอง
องค์ประกอบ:
  1. คนอื่นถูกพยาบาท
  2. คิดจะให้คนนั้นเกิดความเสียหาย
วิธีพิจารณาโทษ:
  1. คุณความดีของคนถูกพยาบาท
  2. กิเลสของผู้คิด
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ
  • เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ จะมีอายุสั้น หรือมีโรคภัยเบียดเบียน
พยาบาทเป็นตัวการให้ทำบาป:
  • พยาบาทสามารถผลักดันให้คนทำอกุศลกรรมบถได้ถึง 6 อย่าง
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • ทำให้เป็นคนใจเย็น ไม่โกรธง่าย
  • ทำให้จิตใจสงบ ไม่มีความทุกข์
  • ส่งเสริมความเมตตา และความให้อภัย

สรุป: พยาบาทเป็นความคิดที่นำไปสู่ความทุกข์ และการทำร้ายผู้อื่น ควรละเว้น

ความหมาย:
  • "ทิฏฐิ" แปลว่า ความเห็น หรือลักษณะของจิตที่ตัดสินลงไป
  • มิจฉาทิฏฐิ คือ ความเห็นที่ผิดจากคลองธรรม (ทางที่ถูกต้องดีงาม)
ลักษณะ:
  • เป็นการเห็นที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ถูกต้อง เช่น เห็นว่าการทำบาปไม่มีผล การให้ทานไม่มีประโยชน์ เป็นต้น
ตัวอย่าง:
  • เห็นว่าพ่อแม่ไม่มีบุญคุณ
  • เห็นว่าการฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่ดี
ความสำคัญ:
  • มิจฉาทิฏฐิไม่ใช่แค่ไม่รู้ แต่มีความเห็นที่ผิดไปจากความเป็นจริง
  • เป็นการตัดสินใจของจิตที่ผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว
  • มิจฉาทิฏฐิมีผลรุนแรงต่อจิตใจ
องค์ประกอบ:
  1. เรื่องผิดจากความจริง
  2. มีความเห็นว่าเป็นความจริง
วิธีพิจารณาโทษ:
  1. มีความเห็นผิดจนเคยชิน
  2. มีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฏฐิ
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิแน่นอน
  • ไม่สามารถบรรลุมรรคผล (ความหลุดพ้น) ได้
มิจฉาทิฏฐิเป็นตัวการให้ทำบาป:
  • มิจฉาทิฏฐิสามารถผลักดันให้คนทำอกุศลกรรมบถได้ครบทั้ง 10 ประการ
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • ทำให้มีความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง
  • นำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง และความสุขที่แท้จริง
  • เป็นพื้นฐานสำคัญในการบรรลุธรรม

สรุป: มิจฉาทิฏฐิเป็นความเห็นที่ผิดพลาด นำไปสู่ความทุกข์ และขัดขวางการบรรลุธรรม ควรละเว้น