กรรมบถ ชั้นเอก

กรรมบถ ชั้นเอก

บทที่ 3 วจีกรรม 4 🗣️

คำอธิบาย:
  • วจีกรรม คือ กรรมที่เกิดจากการกระทำทางวาจา
  • วจีทุจริต คือ การทำบาปทางวาจา มี 4 อย่าง ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดคำหยาบ และการพูดเพ้อเจ้อ
  • วจีสุจริต คือ การทำความดีทางวาจา มี 4 อย่าง ได้แก่ เว้นจากการพูดเท็จ เว้นจากการพูดส่อเสียด เว้นจากการพูดคำหยาบ และเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ

ความหมาย:

"มุสาวาท" หมายถึง การพูดให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิด รวมถึงการแสดงความเท็จทางกายด้วย (เช่น การเขียนโกหก)

องค์ประกอบ:
  1. เรื่องไม่จริง
  2. มีจิตคิดจะพูดเรื่องไม่จริง
  3. พูดเรื่องไม่จริงนั้นออกไป
  4. คนฟังเข้าใจตามที่พูด
วิธีพิจารณาโทษ:
  • ความเสียหายมากน้อยเพียงใด: เสียหายมาก มีโทษมากกว่า
  • คุณความดีของคนถูกโกหก: โกหกผู้มีคุณ มีโทษมากกว่า
  • เจตนาของผู้พูด: เจตนาไม่ดี มีโทษมากกว่า
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ
  • เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ จะถูกใส่ร้าย และไม่มีใครเชื่อถือ
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • สร้างความน่าเชื่อถือ และไว้วางใจซึ่งกันและกัน
  • ทำให้คำพูดมีคุณค่า และเป็นประโยชน์
  • ส่งเสริมความจริงใจ และความซื่อตรง
ตัวอย่าง:
  • การไม่พูดโกหกเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
  • การพูดความจริง แม้ในเรื่องที่ไม่น่าพอใจ

สรุป: มุสาวาทเป็นการทำลายความจริง และความไว้วางใจ มีโทษมาก และควรละเว้น

ความหมาย:

"ปิสุณวาจา" หมายถึง การนำความข้างนี้ไปบอกข้างโน้น เพื่อให้เขาแตกกัน มุ่งให้เขาแตกกัน หรือมุ่งให้เขารักตัว

องค์ประกอบ:
  1. คนอื่นที่ต้องการให้แตกแยก
  2. จงใจจะพูดให้แตกแยก
  3. พยายามพูดให้เขาแตกแยก
  4. เขาแตกแยกกันตามคำพูดนั้น
วิธีพิจารณาโทษ:
  • คุณความดีของคนถูกทำลาย: ทำลายคนดี มีโทษมากกว่า
  • ความรุนแรงของการแตกแยก: แตกแยกมาก มีโทษมากกว่า
  • กิเลสของผู้พูด: กิเลสรุนแรง มีโทษมากกว่า
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ
  • เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ จะทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • สร้างความสามัคคี และความปรองดอง
  • ส่งเสริมความรักใคร่ และความเข้าใจกัน
  • ทำให้หมู่คณะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ตัวอย่าง:
  • การไม่พูดจาให้ร้ายผู้อื่นลับหลัง
  • การพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของผู้อื่น

สรุป: ปิสุณวาจาเป็นการทำลายความสัมพันธ์ของผู้อื่น มีโทษมาก และควรละเว้น

ความหมาย:

"ผรุสวาจา" หมายถึง การใช้คำหยาบด่าทอ หรือสาปแช่งผู้อื่น เกิดจากความโกรธ ความไม่พอใจ

องค์ประกอบ:
  1. มีคนถูกด่า
  2. คนพูดมีจิตโกรธ
  3. พูดคำหยาบนั้นออกไป
ลักษณะคำหยาบ:

ด่า ประชด กระทบ แดกดัน สบถ คำหยาบโลน คำอาฆาต คำต่ำ

วิธีพิจารณาโทษ:
  • ความรุนแรงของคำพูด: หยาบมาก มีโทษมากกว่า
  • คุณความดีของคนถูกด่า: ด่าผู้มีคุณ มีโทษมากกว่า
  • กิเลสของผู้พูด: กิเลสรุนแรง มีโทษมากกว่า
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ
  • เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ จะได้ยินแต่คำพูดที่ไม่น่าฟัง
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • ทำให้คำพูดสุภาพ น่าฟัง
  • แสดงถึงความเคารพต่อผู้อื่น
  • สร้างบรรยากาศที่ดีในการสื่อสาร
ตัวอย่าง:
  • การใช้คำพูดที่สุภาพ และให้เกียรติผู้อื่น
  • การควบคุมอารมณ์เมื่อพูด

สรุป: ผรุสวาจาเป็นการทำร้ายจิตใจผู้อื่นด้วยคำพูด มีโทษมาก และควรละเว้น

ความหมาย:
  • "สัมผัปปลาปะ" หมายถึง การพูดเหลวไหล พล่อยๆ ไม่มีประโยชน์
  • ไม่ได้มุ่งหวังผลใดๆ จากการพูด
องค์ประกอบ:
  1. จงใจจะพูดเรื่องเพ้อเจ้อ
  2. พูดเรื่องเพ้อเจ้อนั้นออกไป
วิธีพิจารณาโทษ:
  • ความเคยชินในการพูดเพ้อเจ้อ: พูดบ่อย มีโทษมากกว่า
  • ผลกระทบต่อผู้อื่น: ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด มีโทษมากกว่า
  • กิเลสของผู้พูด: กิเลสรุนแรง มีโทษมากกว่า
ผลกรรม:
  • ทำให้ไปเกิดในอบายภูมิ
  • เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ จะไม่น่าเชื่อถือ และไม่ประสบความสำเร็จ
ประโยชน์และความสำคัญของการงดเว้น:
  • ทำให้คำพูดมีสาระ และเป็นประโยชน์
  • ส่งเสริมสติ และความมีเหตุผล
  • ทำให้เป็นคนน่าเชื่อถือ และประสบความสำเร็จ
ตัวอย่าง:
  • การพูดในสิ่งที่สร้างสรรค์ และเป็นประโยชน์
  • การหลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องไร้สาระ

สัมผัปปลาปะเป็นการเสียเวลา และทำให้คำพูดไม่มีคุณค่า มีโทษมาก และควรละเว้น