อุโบสถศีล ชั้นโท

อุโบสถศีล ชั้นโท

การรักษาอุโบสถศีล เป็นการฝึกจิตใจให้เป็นผู้ใหญ่ในธรรม

แม้ยังเป็นเด็ก หากตั้งใจรักษาอย่างจริงจัง ก็สามารถเป็นคนดีที่โลกต้องการได้

บทที่ 5 พฤติกรรมการรักษาอุโบสถศีล

แม้จะสมาทานศีล 8 แล้ว แต่การ ปฏิบัติตัวขณะรักษา ก็มีผลต่อบุญกุศลที่ได้รับ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า ผู้รักษาศีลด้วยความตั้งใจต่างกัน ย่อมได้รับผลบุญไม่เท่ากัน

ใน อุโบสถสูตร พระพุทธเจ้าตรัสเล่าแก่ นางวิสาขา ว่าการรักษาอุโบสถศีลมี 3 แบบ ได้แก่:

  1. โคปาลกอุโบสถ — รักษาแบบ “คนเลี้ยงโค”

    เปรียบเหมือนคนเลี้ยงวัวที่มองแต่นอก ไม่ดูแลวัวให้กินดีอยู่ดี

    ผู้รักษาศีลประเภทนี้ ไม่ตั้งใจจริง พูดคุยเพลิน เล่นสนุก ไม่ตั้งจิตในธรรม ไม่ทำกิจกรรมธรรมะ เช่น ไม่สวดมนต์ ไม่ฟังธรรม ไม่นั่งสมาธิ

    👉 ผลบุญน้อย เพราะไม่มีเจตนาแน่วแน่

  2. นิคัณฐอุโบสถ — รักษาแบบ “นักบวชนอกพุทธศาสนา”

    รักษาศีลเพราะหวังผล เช่น อยากได้บุญ อยากไปสวรรค์ บางครั้งทรมานตนเกินเหตุ หวังแลกกับบุญกุศล

    👉 ได้ผลบุญบ้าง แต่ยังไม่ใช่วิถีแห่งพุทธศาสนาแท้จริง

  3. อริยอุโบสถ — รักษาแบบ “พระอริยเจ้า”

    ตั้งใจแน่วแน่ ตั้งจิตไว้ในธรรมจริง ๆ

    รักษาศีลอย่างบริสุทธิ์ ไม่หวังผลตอบแทน ใช้เวลาทั้งวันในการสวดมนต์ ฟังธรรม ทำสมาธิ เจริญเมตตา

    👉 ได้อานิสงส์สูงสุด เป็นแบบอย่างของผู้รักษาอุโบสถที่แท้จริง

  • ไม่พูดมาก ไม่เล่นมาก ใช้เวลาสงบใจ
  • ใส่ใจในศีลทุกข้อ ไม่ละเลยแม้เพียงเล็กน้อย
  • ทำกิจกรรมที่เป็นกุศล เช่น ช่วยงานวัด ฟังธรรม เจริญภาวนา
  • อดทนแม้จะหิวหรือเมื่อย ไม่อิดออด เพราะรู้ว่ากำลังฝึกจิต

ประเภทการรักษา เปรียบเหมือน ผลลัพธ์
โคปาลกอุโบสถ คนเลี้ยงวัว ไม่ใส่ใจ ได้บุญน้อย
นิคัณฐอุโบสถ หวังบุญเกินพอดี ได้บุญแต่ไม่มั่นคง
อริยอุโบสถ ผู้ใฝ่ธรรมแท้ ได้บุญมาก ใจสงบ