พุทธประวัติ

พุทธประวัติ

เรื่องราวเริ่มต้นของพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ก่อนตระกูลศากยวงศ์ จนกระทั่งตรัสรู้

พาย้อนกลับไปกว่า 2,600 ปี เพื่อศึกษาชีวิตอันน่าทึ่งของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ทรงกลายเป็นพระพุทธเจ้า เนื้อหาถูกออกแบบให้เข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนชั้นประถม โดยแบ่งเป็น 4 บทหลัก: ภูมิหลังชมพูทวีป: ทำความรู้จักดินแดนต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา ระบบวรรณะ และสังคมยุคก่อนพุทธกาล, การประสูติและวัยเด็ก: ศึกษาปาฏิหารย์ครั้งประสูติ การเลี้ยงดูในปราสาท 3 หลัง และการศึกษาศิลปวิทยาต่างๆ, การออกผนวช: ติดตามการตัดสินพระทัยออกผนวช การแสวงหาความจริงจากครูอาจารย์ และการบำเพ็ญทุกรกิริยา, การตรัสรู้: เรียนรู้การผจญมาร การค้นพบอริยสัจ 4 และการประกาศศาสนา วิชานี้ไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ แต่ยังสอดแทรกคำสอนพื้นฐานที่เหมาะสมกับวัย เช่น ความไม่ประมาท ความเพียร และการเห็นคุณค่าของชีวิต โดยใช้ภาษาง่ายๆ

บทที่ 3: วัยเด็กและการศึกษาของเจ้าชายสิทธัตถะ

ชีวิตในปราสาทของเจ้าชายสิทธัตถะเต็มไปด้วยความสุข แต่การพบเทวทูต 4 ทำให้ทรงเห็นความจริงของชีวิต จนตัดสินพระทัยออกบวช เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น

พระเจ้าสุทโธทนะทรงปรารถนาให้เจ้าชายเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ จึงทรงจัดเตรียมความสุขทุกอย่างเพื่อให้เจ้าชายไม่รู้จักความทุกข์ ปราสาท 3 หลัง สร้างตามฤดูกาล: ปราสาทหนาว (สำหรับฤดูหนาว) ปราสาทร้อน (สำหรับฤดูร้อน) ปราสาทฝน (สำหรับฤดูฝน) เครื่องอำนวยความสะดวก: นางข้าหลวง 40,000 คน คอยดูแล มีสระบัว 3 สระ (บัวขาว, บัวแดง, บัวหลวง) เสวยอาหารเลิศรสทุกวัน

เมื่อเจ้าชายมีพระชนมายุ 7 พรรษา ทรงเริ่มศึกษาศิลปวิทยาในสำนักครูวิศวามิตร

วิชาที่ทรงศึกษา:
  1. คัมภีร์พระเวท (ความรู้โบราณของพราหมณ์)
  2. ศิลปศาสตร์ 18 ประการ เช่น การยิงธนู การขี่ม้า การต่อสู้ ดนตรี คณิตศาสตร์
ความสามารถพิเศษ:

ทรงเรียนรู้ได้รวดเร็ว จนครูบอกว่า "ไม่มีอะไรจะสอนแล้ว"

3.1 การบำเพ็ญสมาธิใต้ต้นหว้า

ขณะมีพระชนมายุ 7 พรรษา ระหว่างพระราช

พิธีแรกนาขวัญ:

พระราชบิดาทรงให้เจ้าชายประทับใต้ต้นหว้า ขณะพระพี่เลี้ยงไปดูพิธี เจ้าชายทรงนั่งขัดสมาธิ ทรงบำเพ็ญสมาธิจนบรรลุ ปฐมฌาน (ความสงบระดับแรก)

เกิดปาฏิหารย์:

เงาต้นหว้าไม่เคลื่อนตามดวงอาทิตย์ พระราชบิดาเห็นดังนั้น จึงถวายบังคมเป็นครั้งที่ 2

3.2 การอภิเษกสมรส

เมื่อพระชนมายุ 16 พรรษา:

ทรงอภิเษกสมรสกับ พระนางยโสธรา (พิมพา) พระธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะ มีพระโอรสชื่อ ราหุล (แปลว่า "บ่วง")

เมื่อพระชนมายุ 29 พรรษา เจ้าชายเสด็จประพาสอุทยาน 4 ครั้ง และพบสิ่งเปลี่ยนชีวิต:

ครั้งที่ เหตุการณ์ ผลที่เกิดขึ้น 1 เห็น คนแก่ (ฟันหลอ ผมหงิก) ทรงตระหนักว่า "ทุกคนต้องแก่" 2 เห็น คนเจ็บ (ทุรนทุราย) ทรงรู้ว่า "ความเจ็บเป็นของธรรมดา" 3 เห็น คนตาย (ถูกหามไปเผา) ทรงคิดว่า "ชีวิตไม่เที่ยง" 4 เห็น สมณะ (นักบวช serene) ทรงเห็นทางออกคือ "การบวช"

หลังพระนางยโสธราทรงประสูติพระโอรส "ราหุล" (แปลว่าบ่วง):

ค่ำวันนั้น เจ้าชายทรงตัดสินพระทัยออกบวช ทรงมองพระโอรสและพระชายาสุดท้าย แล้วตรัสว่า:

"ราหุละ...เธอเป็นบ่วงที่ผูกมัดเราไว้"

เวลาเที่ยงคืน ทรงม้ากัณฐกะออกจากปราสาท